ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชุดรัดกล้ามเนื้อ (Compression apparel) ดีอย่างไร?

เสื้อรัดกล้ามเนื้อ, ถุงน่องรัดกล้ามเนื้อ, ถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อ ทั้งหมดนี้ที่เรามักเห็นกันบ่อยๆ เป็นชุดเสื้อผ้าในตระกูล “ชุดรัดกล้ามเนื้อ” หรือ Compression apparel

 

 การออกเเบบชุดเสื้อผ้ารัดกล้ามเนื้อจะเน้นเนื้อผ้าที่สามารถหดตัวและยืดหยุ่นสูง ใส่เเล้วสามารถรัดกล้ามเนื้อเข้ารูปผู้ใช้ได้อย่างดี แต่ที่น่าสนใจคือการออกเเบบอยู่ภายใต้คอนการเเพทย์ เมื่อสวมใส่จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด (Blood flow) เเละน้ำเหลือง (Lymphatic flow) เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับวงการกีฬา ชุดรัดกล้ามเนื้อ (Compression apparel) คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของนักกีฬาและช่วยเร่งการฟื้นตัวให้เร็วขึ้น

*เรื่องน่ารู้ ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic system) เป็นระบบลำเลียงที่ช่วยลำเลียงสารต่างๆให้กลับเข้าสู่เส้นเลือด อย่าง สารอาหาร พวกกรดไขมันที่ดูดซึมจากลำไส้เล็ก

เเม้ชุดรัดกล้ามเนื้อ (Compression apparel) จะถูกออกเเบบภายใต้คอนเซ็ปการเเพทย์ เเต่ผลที่ได้หลังจากการใช้ก็ยังไม่กระจ่างเเจ้ง ผู้เชียวชาญหลายๆ คนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เเต่ก็มีงานวิจัยออกมารับรองผลการใส่เหมือนกันว่า ชุดรัดกล้ามเนื้อสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเราได้ และได้บางส่วนก็มี

ใส่ชุดรัดกล้ามเนื้อเเล้ว วิ่งเร็วขึ้นหรือไม่?

การทำงานของชุดรัดกล้ามเนื้อจะเป็นการบีบรัดหลอดเลือด คล้ายๆ การบีบนวดเเล้วคลาย บังคับให้เลือดไหลเวียนผ่านเยอะขึ้น เมื่อมีการไหลเวียนผ่านเยอะ หมายความว่า จะมีสารอาหาร ออกซิเจน มาเลี้ยงเยอะขึ้น เเถมช่วยชะล้างเอาของเสียผ่านไป ด้วยหลักการทำงานอย่างนี้จึงคาดว่ากล้ามเนื้อเราจะมีพลังงานมาหล่อเลี้ยงเยอะขึ้น ทำให้ผลิตพลังงานและทำให้วิ่งเร็วมากขึ้น

มีงานวิจัยของ University of Newcastle ที่พยายามหาข้อสนับสนุนว่าการใส่ชุดรัดกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้สวมใส่ โดยให้ผู้เข้าทดลองทำการใส่ถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อ (compression sock) แต่พบว่าไม่มีผลที่เเสดงได้ชัดเจนว่าการใส่ถุงเท้ารัดกล้ามเนื้อจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้วิ่งเร็วขึ้น เเต่ก็มีข้อโต้เเย้งว่ามีการไหลเวียนอาหารมาส่งมากขึ้น กล้ามเนื้อน่าจะผลิตพลังงานได้เยอะขึ้นสิ แต่ประสิทธิภาพอาจจะเพิ่มขึ้นในปริมาณที่ยากจะสังเกตให้เห็นได้ชัดเจน เรียกว่าเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย

สาเหตุที่ไม่เห็นผลว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะนักวิ่งต้องรับน้ำหนักเพิ่มจากการใส่ถุงน่องรัดกล้ามเนื้อ (คู่หนึ่งร่าวๆ 85 กรัม เเต่เมื่อมีเหงื่ออาจะเพิ่มขึ้น) ก็ได้ เเต่โดยความคิดส่วนตัวของผู้เขียน คิดว่าการที่จะวิ่งเร็วขึ้นต้องขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อม การสร้างกล้ามเนื้อให้ผลิตพลังงาน และการฝึกเทคนิคการวิ่งเป็นหลัก

ใส่เเล้วสามารถลดอาการเมื่อยล้าได้

หลักการทำงานของชุดรัดกล้ามเนื้ออย่างเช่น ถุงเท้าหรือถุงน่องรัดกล้ามเนื้อ (Compression sock and calf sleeve) จะช่วยประคองให้กล้ามเนื้ออยู่กับที่กับทาง เวลาที่เราลงเท้าเวลาวิ่งจะเกิดเเรงสั่นไหวส่งขึ้นมาทำให้กล้ามเนื้อถูกเขย่าไปมา สิ่งนี้อาจจะเป็นเหตุให้เกิดอาการเมื่อยล้าหลังจบการออกกำลังกาย น่าดีใจที่การช่วยลดอาการเมื่อยล้ามีงานวิจัยรับรองโดย Massey University ใน Auckland เมื่อผู้ทดลองวิ่งระยะ 10 กิโลเมตร ( วิ่ง fast pace) พบว่า คนที่ใส่ถุงเท้าหลังจบการวิ่ง จะไม่มีอาการล้าให้เห็นในวันต่อมา แต่ 90% ของคนที่ไม่ใส่ ขาจะมีอาการเมื่อยล้าเเสดงให้เห็น

ช่วยเร่งการฟื้นฟู

หลังจบการออกกำลังกาย ให้ใส่ชุดรัดกล้ามเนื้อจะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดเยอะขึ้น ช่วยเร่งการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ (recovery) ช่วยให้เลือดชะล้างของเสียออกจากเซล์ เเละนำสารอาหารมาเลี้ยงกล้ามเนื้อใหม่ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่มีงานวิจัยรับรองอย่าง University of Exeter ที่ให้คนทดลองออกกำลังกายแบบ plyometric exercise ในจำนวน 1,2,3 และ 4 วัน แล้วสวมใส่ชุดรัดกล้ามเนื้อ พบว่าหลังจากใส่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง การออกกำลังกายครั้งต่อไปจะมีประสิทธิภายมากขึ้นและลดอาการเมื่อยล้าลง

ที่มา http://running.competitor.com/2014/02/recovery/the-science-of-squeeze-how-compression-apparel-works_43385/4#bX3JfUtzPzKhjCzc.99

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีการ Drill แบบชาวเคนยา

การออกกำลังกายแบบ DRILL เป็นการออกกำลังกายที่สำคัญอย่างมากสำหรับนักวิ่ง เพราะการฝึก DRILL เป็นประจำจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่มีความสำคัญต่อการวิ่ง ทำให้การขับเคลื่อนร่างกายเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ และยังสามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บที่เกิดขณะวิ่งได้อีกด้วย หากนักวิ่งต้องการเพิ่มสมรรถนะในการวิ่งให้ดียิ่งขึ้น การฝึกออกกำลังกายด้วยวิธี DRILL จึงสามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เรามาดูกันดีกว่าว่าการฝึกออกกำลังกายแบบ DRILL แบบชาวเคนยา เพื่อเพิ่ มสมรรถนะความแข็งแรงของร่างกายให้พร้อมกับการวิ่งมากขึ้นนั้น มีท่าฝึกอย่างไรบ้าง     VDO Credit: Kenya Form Running

กล้ามเนื้องอสะโพก (Hip flexors) สำคัญไฉน?

กล้ามเนื้อที่ช่วยในการงอสะโพกมาด้านหน้า มีชื่อทางการแพทย์ว่า Hip Flexors เป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณด้านหน้าของข้อสะโพก ได้แก่ Iliacus, Psoas, Rectus Femoris, Tensor Fascia Latae (TFL) และ Sartorius  เมื่อคุณนั่งเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อกลุ่มนี้จะหดสั้นเข้ามา ทำให้หลายๆ คนพยายามยืดกล้ามเนื้องอสะโพกเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว กล้ามเนื้องอสะโพกกลับมีความสำคัญต่อการออกกำลังกายต่างๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่น การวิ่ง  กล้ามเนื้อกลุ่มนี้จะช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1. ช่วยในการยกขาขึ้นจากพื้น 2. ช่วยให้ขาเคลื่อนไปข้างหน้า 3. ช่วยในการเพิ่มความเร็วในขณะวิ่ง ถ้าท่านใดกำลังมีอาการปวดบริเวณสะโพกหรือขาหนีบ แนะนำให้ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในการงอสะโพกทั้งหมด 4 ท่า ดังนี้ 1. Seated Marching 2. Bench Dip March Against Band 3. Heels Elevated Bridge March Against Band 4. Seated Leg Lifts ที่มา: The Strength Therapist

ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสำหรับนักวิ่ง

มีงานวิจัยในปัจจุบันได้ทำการศึกษาในนักวิ่งระยะปานกลางและระยะไกล โดยมีรายละเอียดดังนี้ มีประสบการณ์ในการวิ่งตั้งแต่ 6 เดือน ขึ้นไป ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยวิธีต่างๆ ได้แก่ Heavy resistance training / Explosive training / Plyometric training ฝึกเป็นเวลานานมากกว่า 4 สัปดาห์ ผลปรากฏว่านักวิ่งมีสิ่งต่างๆ เหล่านี้ดีขึ้น ดังนี้ ประสิทธิภาพในการใช้พลังงานในการวิ่ง เวลาที่ใช้ในการวิ่ง การใช้พลังงานโดยไม่ใช้ออกซิเจนในช่วงเริ่มวิ่ง รู้แบบนี้แล้ว นักวิ่งทั้งหลายต้องใส่โปรแกรมการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อไว้ในตารางฝึกซ้อม โดยในวันนี้เรามีท่าบริหารมาแนะนำทั้งหมด 9 ท่า ดังนี้ Skater squat Side plank clam with band Single leg hamstring slider curl Single leg wall slide Single leg squat Lateral step down Sidelying hip abduction Single leg calf raise Single leg calf raise with knee bend อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ Blagrove RC, Howatson G, Hayes PR. Effects of Strength Training on the Physiological Determinants of Middle- and Long-Distance Running Performance: A Systematic Review. Sports Med. 2018;48(5)